Julia Margaret Cameron (11 June 1815 – 26 January 1879)
เป็นช่างภาพสตรีชาวอังกฤษ ที่เริ่มถ่ายถาพในวัยกลางคนหลังจากที่หมดภาระกับลูกๆที่เติบโตจนหมด เธอเริ่มเรียนรู้การถ่ายภาพเมื่ออายุได้ 48 ปี เมื่อได้รับกล้องถ่ายภาพเป็นของขวัญ จากลูกสาว โดยเรียนรู้กับช่างภาพที่มีชือเสียงในสมาคมถ่ายภาพของอังกฤษ และในที่สุดก็นเป็นสมาชิกของสมาคมนั้น
งานของ เธอมีความโดดเด่นในเรื่องการสร้างเรื่องราวของภาพ บุคคล ในลักษณะของงานปราณีตศิลป์ ในจดหมายที่เขียนถึง เซอร์ จอนท์ เฮเชอร์ ว่าการที่ภาพถ่ายจะเป็นงานศิลปะนั้นต้องเป็นการผสมผสานกันระหว่าง ความจริง ความคิดและ บูชาความไม่มีแก่นสารของสัจจะ ด้วยความงามและบทกวี ภาพส่วนมากของเธอเป็นภาพบุคคล ของเพื่อน และเพื่อนขอเพื่อนโดยเฉพาะบุคคลที่สำคัญในยุดวิทอเรียน ไม่ว่าจะเป็น ชาล ดาวินท์ อัลเฟรด เทเนสสัน การถ่ายภาพของเธอนำเสนอ ลักษณะทีเด่นชัดของบุคคลที่เธอถ่ายภาพ เช่นภาพของ เซอร์ จอนท์ เฮเชอร์ (John Herschel) นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสีียงในสมัยนั้น ที่เธอบันทึกภาพ ใบหน้าที่มีผมชี้ยุ่งเยิงของ นักวิทยาศาสตร์ผู้ที่มีความคิดก้าวหน้าและมีพลังในการคิดเสมอ เธอกล่าวในหนังสือชีวประวัติของตัวเองว่า เวลาที่เธอถ่ายภาพ เธอพยายามเป็นอย่างมากที่จะ ถ่ายถอดสิ่งที่บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้ากล้องของเธอ คิด,เป็นและเชื่่อ ในสิ่งที่เขาเหล่านั้นทำอยู่
ลักษณะผลงานของ คาเมรอนมักจะสร้างจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจาก คัมภีร์ไบเบิล,เทพนิยากรีก,ภาพเขียนในยุคเรเนซองห์ รวมไปถึงเรื่องราวพื้นบ้านและวรรณกรรมของอังกฤษ ดังเช่นเธอได้สร้างภาพของ Marry Hilier พนักงานเสริพ เป็นพระแม่มารี โดยอาศัยการจัดแสงและเสื่อผ้าพร้อมกับหลังฉากหลังอย่างตั้งใจ
เหมือนกับช่างภาพสตรีร่วมสมัยเธอมักจะถ่ายภาพผู้หญิงเป็นหลักเพราะว่าในเวลานั้นผู้หญิงมักจะไม่ที่รู้จักของสาธารณะชนส่วนมากถ้าไม่ใช้นักแสดง ซึ่งจะต่างจากผู้ชายที่หลายๆคนที่เธอรู้จักเป็นคนที่มีชื่อเสียง ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนหญิงธรรมดาเหล่านั้นให้กลายเป็น เทพธิดา หรือนางไม้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi9kYArYseL_GS9IGosCin1WQ2qCSlPIj0J1Xl7KdJx_Ynt_aYAqqMNn6RfHhL7p6OLigCUa-GSfbyAUsDILDAUKpC3_miYuGVtGB8ywr2Q2sDfHcYNGbX66oNsVnuNINpNssLB98ThC4Y/s320/cameron_mrs_herbert_duckworth.jpg)
บ่อยครั้งที่เธอเลือกที่จะสร้างภาพจากช่วงเวลาที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ของเนื้อเรื่องที่เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีของผู้ชม ดังเช่นภาพของ โอฟิเลีย ซึ่งเป็นตัวละครในวรรณกรรมกรีกที่ผู้ชมรู้จักเป็นอย่างดี
เธอมักจะใช้รูปแบบของการแต่กายของผู้หญิงในยุคกลางของยุโรปที่มักจะปรากฏในงานภาพเขียนของศิลปิน พรีราฟาเอล (Pre-Raphaelite Brotherhood) และมีหลายภาพที่คลายกับงานของ ดันเต้ กาเบรีย โรเซตติ[1](Dante Gabriel Rossetti)
ภาพที่ดูนุ่มนวลและเบลอเป็นผลมาจากการที่เธอใช้ช่วงโฟกัสผิดพลาดในการบันทึกภาพทำให้มีเพียงบางส่วนของบุคคลในภาพมีความคมชัดรวมไปถึงการใช่เลนส์ที่คุณภาพไม่ดีนัก ทำให้ภาพนุ่มนวล สิ่งนี้ได้กลายเป็นลักษณะเด่นของภาพถ่ายของเธอ โดยทีไม่สนใจกับการวิจารณ์ในเรื่องความไม่คมชัดของภาพเอได้สร้างสรรค์งานในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลายเ็นผลดีกับรูปแบบของผลงานที่มักจะนำแบบหญิงสาวมาแสดงท่าทางเป็นตัวละครต่างๆ ที่แสดงออกจากจิตนาการ บางก็ชวนฝัน บางก็ชวนให้คิดต่อในการสร้างบรรยากาศหมอกมัว บางก็ดูลีกลับ เช่นภาพของนางไม้
ต่างจากช่างภาพหญิงในยุคเดียวกันเธอจัดแสดงผลงานและพยายามที่ขายผลงานของเธอ โดยใช้นักขายงานศิลปะที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอนแต่ก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไรนักเพราะเธอถูกมอง ว่าทำงานของผู้หญิงที่เคร่งศาสนา ที่ไม่สามารถถ่ายภาพให้คมชัดได้
อย่างไรก็ตามผลงานของ คาเมรอนก็ถือว่าเป็นการบุกเบิกการสร้างภาพโดยอาศัยการจัดวางท่าทาง สร้างบรรยากาศและอารมณ์ในภาพด้วย แสง การโฟกัส และจิตนาการ ของผู้สร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังเป็นงานที่เปิดโอกาศให้ผู้ชมได้จิตนาการหรือตีความภาพของเธอตามเนื้อหาเรื่องราวของตัวละครในเรื่องที่เธอหยิบออกมาสร้างเป็นภาพถ่าย มากกว่าในฐานะเครื่องระบุตัวตน ในสมัยของเธอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น